พลาดรถไฟขบวนไหนไปบ้าง ถ้าเราไม่เรียนภาษาอังกฤษตอนนี้



สกิลภาษาอังกฤษเป็นสิ่งที่ใครๆก็อยากได้อยากโดน เราจะไปหางานทำหรืออะไรมันก็ง่ายไปหมด ลองมาดูกันดีกว่า เราพลาดอะไรไปบ้างถ้ายังไม่เริ่มเรียนภาษาอังกฤษตอนนี้


7 เหตุผลว่าทำไมคุณควรเรียนอังกฤษเพื่อตามโลกให้ทัน


1. พลาดโอกาสการได้ตำแหน่งสูงๆ
2. หมดโอกาสคว้างานดีๆ เงินเดือนสูงๆ
3. พลาดโอกาสสื่อสารแลกเปลี่ยนมุมมองกับคนชาติอื่น
4. การรับรู้ข่าวสารจะยากขึ้น
5. ไม่ได้แฟนฝรั่ง (ฮ่าๆๆๆ)


เรียนภาษาอังกฤษง่ายๆ สบายๆที่บ้านคุณ


การเรียนภาษาอังกฤษเริ่มได้ง่ายๆที่บ้าน หากคุณต้องการเรียนให้เป็นไวหน่อยก็แค่อ่านเยอะหน่อย ฝึกเยอะหน่อย เชื่อผมเถอะว่าไม่มีอะไรที่เจ๋งไปกว่าความพยายามของตัวคุณเอง


8 สุดยอดโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษที่ราคาคุ้มเว่อร์…

สวัสดีค่ะ…น้องๆชาว SI-UK ทุกคนน วันนี้พี่วีวี่ก็มีเรื่องราวดีๆมาเล่าให้ฟังกันอีกแล้วนะคะ โดยวันนี้เราจะมานำเสนอถึง 8 โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษที่ราคาสมเหตุสมผลม๊ากมากก ส่วนจะมีโรงเรียนไหนบ้างนั้น…เลื่อนลงไปดูกันได้เลยค่า


Oxford House Collage (OHC)
แค่ชื่อโรงเรียนนี่ก็การันตีคุณภาพได้แล้วนะคะคุ๊ณณ แถมหลักสูตรก็ยังได้รับการรับรองจาก British Council แล้วด้วย และนอกจากบรรยากาศสถานที่เรียนที่ฮอกวอตต์ (สวย ขลังและอลังกาล) มากๆแล้ว ราคาค่าเรียนของที่นี่ก็ยังอลังกาลดาวล้านดวงไม่แพ้กัน โดยคอร์สเรียนภาษาอังกฤษแบบ General English ระยะเวลา 24 สัปดาห์ จำนวน 1 คอร์ส ราคาจะอยู่ที่ 3,240 ปอนด์ หรือประมาณ 155,520 บาทเท่านั้น (ว้าวว!!) ซึ่งคอร์สเรียนของที่ Oxford House Collage ถือเป็นคอร์สเรียนภาษาอังกฤษเข้มข้นซึ่งได้รับความนิยมมากในหมู่นักเรียนชาวไทย สิ่งที่น้องๆจะได้รับจากการเรียนที่นี่คือคอร์สเรียนภาษาอังกฤษที่สามารถนำไปใช้ได้จริง และอาจารย์ผู้สอนที่มีประสบการณ์

ส่วนบรรยากาศของสถานที่เรียนยิ่งไม่ต้องพูดถึงเพราะสถานที่ตั้งของโรงเรียนทั้ง Oxford, London และ Stratford ล้วนแล้วแต่เป็นสถานที่ที่เอื้อต่อการเรียนทั้งสิ้น

Oxford Education Group (ISIS Education)
โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษที่มีประสบการณ์การสอนกว่า 23 ปี Oxford Education Group หรือ ที่หลายๆคนอาจจะรู้จักกันในชื่อ ISIS Education ที่นี่มีคอร์สเด่นๆคือ คอร์สภาษาอังกฤษพื้นฐานและคอร์สภาษาอังกฤษฤดูร้อนเชิงธุรกิจ ที่ Oxford Education Group ยังมีบริการสำหรับนักเรียนต่างชาติโดยเฉพาะ น้องๆจึงมั่นใจได้เลยว่าจะได้รับการดูแลอย่างดีเยี่ยม (สบายหายห่วงง) ส่วนราคาคอร์สเรียนภาษาอังกฤษแบบ General Standard English Programme เวลา24 สัปดาห์ จำนวน 1 คอร์ส จะอยู่ที่ 3,521 ปอนด์ หรือประมาณ 169,008 บาทเท่านั้น (อื้มหืมม)

และแน่นอนว่าภาษาอังกฤษของทีนี้ได้รับการรับรองหลักสูตรจากทั้ง British Council รวมไปถึงมหาวิทยาลัยชื่อดังอีกหลายแห่ง ส่วนบรรยากาศและสถานที่เรียนต้องขอบอกเลยว่า Oxford Education Group มีที่ตั้งหลายแห่งมากก เลือกเมืองได้ตามใจชอบเลย

Embassy
อ่านจากชื่อไม่ใช่สถานทูตนะจ๊ะ แต่ที่นี่คือโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษที่ดังที่สุดแห่งหนึ่งเลยทีเดียว จุดเด่นของ Embassy คือ เป็นโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษที่นานาชาติมาก เพราะผ่านการสอนนักเรียนต่างชาติมาแล้วเกินกว่า 500,000 คน (OMG!!) ไม่ว่าจะเป็นภาษาอังกฤษสำหรับศึกษาต่อ ภาษาอังกฤษสำหรับการทำงาน หรือ ภาษาอังกฤษสำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน ที่นี่ก็มีคอร์สที่เหมาะสำหรับน้องๆทุกคน สำหรับราคาคอร์สเรียนภาษาอังกฤษแบบ General English Standard เวลา 24 สัปดาห์ จำนวน 1 คอร์ส จะอยู่ที่ 3,870 ปอนด์ หรือประมาณ 185,760 บาท (OMGx2) เรียกได้ว่าเรียนภาษาอังกฤษถึงประเทศเจ้าของภาษาแบบคุ้มๆกันเลยทีเดียว

เรียนภาษาอังกฤษที่ไหนดี

สถานที่ตั้งของโรงเรียนก็ OMG อีกแล้วพราะตั้งอยู่ที่เมืองเคมบริดจ์ กับอาคารเรียนสไตล์เอ็ดเวิร์ดเดียนยุคใหม่ ซึ่งตั้งอยู่ในเขตสวยงามของเมืองใกล้กับแม่น้ำ ใช้เวลาเดินเพียงแค่ 20 นาทีเท่านั้น หรือน้องๆจะปั่นจักรยานเล่นๆเย็นๆใจมาเรียนก็ชิลล…ไม่แพ้กัน

St Giles International
โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษที่ก่อตั้งมาแล้วกว่า 60 ปี โรงเรียนนี้พี่วีวี่ขอบอกเลยว่าไม่ธรรมดา เพราะ St Giles International เป็นหนึ่งในไม่กี่โรงเรียนที่มีหลักสูตร English for Special purpose เปิดสอน และหลักสูตรนี้ยังถือเป็นหนึ่งในหลักสูตรเด่นของโรงเรียนอีกด้วย นอกจากนั้น St Giles ยังมีหลักสูตรเริ่ดๆจนต้องบอกต่ออีก อย่าง General English และ Examination Courses  โดยราคาคอร์สเรียนภาษาอังกฤษแบบ General English เวลา 24 สัปดาห์ จำนวน 1 คอร์ส จะอยู่ที่ 4,248 ปอนด์ หรือประมาณ 203,904 บาท (Wow!) ซึ่งระยะ 6 เดือนนี้คอร์สภาษาอังกฤษของที่นี่จะช่วยให้ภาษาอังกฤษของน้องๆพัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลย

สำหรับสถานที่ตั้งของโรงเรียนก็เรียบ หรู ดูดี วีว่า สุด อต่จะสุดขนาดไหนพี่วีวี่ก็มีรูปมาให้ลองพิจารณากันด้วยค่า ดูไปดูมานึกว่ากำลังเรียนอยู่ในโรงแรม 5 ดาว…อุ๊ปส์!

Concorde International
มาถึงโรงเรียนอันดับที่ 5 ของเรากันบ้าง กับ Concorde International ที่ชื่อโรงเรียนฟังละม้ายคล้ายชื่อโรงแรมหรูอยู่ไม่น้อย (อิอิ) และที่นี่ก็ไม่ได้มีดีแค่ชื่อนะจ๊ะเพราะมีเจ้าของเป็นถึง ป๊ะป๋าของ ออร์แลนโด้ บลูม (ที่หล่อมากก…เกี่ยว?) แค่นี้ก็การันตีความแซ่บได้แล้วเนอะ (ผิด!) แต่ที่แซ่บเว่อร์วังกว่าลูกชายเจ้าของก็นี่เลยคอร์สเรียนภาษาอังกฤษ General English Courses ที่เน้นการเรียนการสอนแบบเข้มข้นเน้นใช้งานจริง และที่สำหรับราคาก็เกร๋ๆอยู่ที่ 4,512 ปอนด์ หรือประมาณ 216,576 บาท สำหรับการเรียน 24 สัปดาห์ ที่น้องๆจะได้สัมผัสกับศูนย์การเรียนที่เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก และอาจารย์ผู้สอนที่มีคุณภาพ

สถานที่ตั้งของ Concorde International ตั้งอยู่ที่ Canterbury กับบรรยากาศที่สุดแสนจะร่มรื่น ที่พี่วีวี่ของนำเสนอให้เป็นสถานที่เรียนที่เกร๋กู๊ดมากๆอันดับต้นๆของโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษเลยค่ะคุณขา…

Stafford House, School of English
โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษที่มีเอกลักษณ์ในการให้บริการและหลักสูตรภาษาอังกฤษที่เนื้อหาแน่น สำหรับที่ Stafford House นักเรียนต่างชาติจะได้รับการดูแลโดยเฉพาะจากระบบการให้บริการแบบ Personal service ที่มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย การสอนที่เป็นเลิศและตารางเรียนกับคอร์สเรียนที่ปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ ที่ Stafford House หลักสูตรเด่นคือ Super Intensive English หลักสูตรสุดเข้มข้นสำหรับติวเข้มเพื่อใช้ภาษาอังกฤษสำหรับเรียนต่อหรือใช้ในการทำงาน ตีคู่มากับหลักสูตร General English ที่ได้รับความนิยมตลอดกาล กับราคาโดนใจที่4,560 ปอนด์/ 1 คอร์ส (24 สัปดาห์) หรือประมาณ 218,880 บาทเท่านั้น บอกได้คำเดียวว่าคุ้มสุดๆ

Stafford House ตั้งอยู่ในกรุงลอนดอน กับสถานที่เรียนกว้างขวางร่มรื่นเหมาะกับการ Take course ภาษาอังกฤษยามว่าง หรือการเรียนแบบมีเป้าหมายก็เหมาะอย่างยิ่งที่จะใช้สถานที่อันร่มรื่นไว้ทบทวนบทเรียน

London School of English
เดินทางมาถึงโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษในตำนานอย่าง London School of English โรงเรียนระดับพรีเมี่ยมที่มีชื่อเสียงโด่งดังติดอันดับต้นๆของประเทศ และมีประวัติการสอนที่ยาวนานเพราะก่อตั้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2455 นู้นน (Oh, WOW!) จึงถือได้ว่าเป็นโรงเรียนสอนภาอังกฤษที่เก่าแก่ที่สุด LSE โดดเด่นด้วยหลักสูตรภาษาอังกฤษที่ได้รับรองมาตรฐานจากหลายสถาบัน สำหรับหลักสูตรหลักและได้รับความนิยมอย่างอื้ออึงก็หนีไม่พ้นคอร์ส Intensive General English ที่ได้รับการการันตีว่าเข้มข้น ได้ผลและคุ้มค่าเรียนมากๆ ด้วยราคาต่อคอร์สระยะเวาลา 24 สัปดาห์ที่ 5,760 ปอนด์หรือประมาณ 276,480 บาท อื้อหือ…ราคานี้แต่ได้เรียนภาษาอังกฤษกับโรงเรียนที่เก่าแก่ที่สุดถึงประเทศเจ้าของภาษาอย่างอังกฤษ พี่วีวี่มิมีอะไรจะพูดเลยค่านอกจาก…คุ้มสุด!!

โรงเรียน London School of English มีที่ตั้งกระจายอยู่ทั่วกรุงลอนดอน มีที่ตั้งทั้งหมด 4 แห่งคือ Holland Park Gardens Centre, London Overground, Westcroft Square Centre และ Canterbury Square

Regent
มาถึงอันดับที่ 8 อันดับสุดท้ายกับ Regent หนึ่งในโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษที่เก่าที่สุดโรงเรียนหนึ่ง ก่อตั้งในปีค.ศ. 1964 ในชื่อ Regent London ที่นี่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญดังนั้นทุกหลักสูตรจึงมีการเรียนการสอนทั้งในและนอกโรงเรียน  Regent โดดเด่นในความเป็นระบบระเบียบและมีประสิทธิภาพของทั้งผู้เรียน ผู้สอนและเจ้าหน้าที่ เพื่อให้การเรียนรู้มีประสิทธิภาพที่สุด หลักสูตรเริ่ดเลอคือ Intensive General English แบบเข้มข้นด้วยคลาสขนาดเล็กที่ผู้เรียนจะได้รับการสอนที่คุ้มค่าที่สุด กับราคาต่อคอร์สระยะเวลา 24 สัปดาห์ที่ 7,680 ปอนด์ หรือประมาณ 368,640 บาท

สถานที่ตั้งของโรงเรียน Regent มีอยู่ด้วยกัน 5 แห่ง คือ London, Brighton, Cambridge, Edinburgh และ Oxford ซึ่งเมืองเหล่านี้ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งการศึกษาของอังกฤษทั้งสิ้น

*ค่าเรียนคำนวณจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ GBP1=48 บาท

และสำหรับน้องๆคนไหนที่สนใจไปเรียนต่อคอร์สภาษาอังกฤษที่ประเทศเจ้าของภาษาอย่างอังกฤษ ก็สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.siuk-thailand.com/uk-study-info/summer-courses/

หรือน้องๆสามารถโทรเข้ามาขอคำแนะนำจากพี่ๆทีมงาน SI-UK ได้ฟรีที่ 02-260-6033 วันนี้พี่วีวี่ต้องลาไปก่อนแล้วนะจ๊ะ…บ๊ายบายย

นิยาย 9 เรื่องสุดเจ๋ง!! ที่จะช่วยพัฒนาทักษะในการเรียนภาษาอังกฤษของคุณได้

การอ่านถือว่าเป็นวิธีที่สนุกแถมยังได้ผลดีในการเรียนภาษาอังกฤษ เพราะว่านิยายจะช่วยอธิบายคำศัพท์ แล้วก็อธิบายถึงลักษณะและโครงสร้างของรูปแบบประโยคอีกด้วย ทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นในขณะที่คุณกำลังเพลินเพลินกับการอ่านนิยายเล่มโปรดของคุณนั่นเอง


    สมัยนี้เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ก็มีขนาดเล็กลงและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นมือถือ คอมพิวเตอร์ หรือแท็บเลต แถมการใช้งานอินเตอร์เน็ตถือว่าสะดวกสบายกว่าเมื่อก่อนมาก ทำให้สามารถที่จะอ่านนิยายผ่านมือถือ หรือแท็บเลตได้ง่ายๆ กันเลยทีเดียว เปรียบเสมือนการเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ไปในตัว ถ้าเราไม่รู้คำศัพท์คำไหนเวลาเราอ่าน เราก็แค่คลิ๊ก หรือค้นหาในเว็บไซต์ต่างๆ ก็จะเจอความหมายของมัน หรือแม้แต่มือถือบางเครื่องก็มี app dictionary เอาไว้ติดเครื่องก็ยิ่งทำให้สะดวกเข้าไปอีก สะดวกสบายอย่างงี้ คงไม่มีอะไรเป็นอุปสรรคต่อการเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ ด้วยการอ่านนิยายกันแล้วใช่มั๊ยล่ะ

    สาธยายกันมาตั้งนาน มาเข้าเรื่องกันดีกว่า เพื่อนๆ คงเห็นประโยชน์ของการอ่านนิยายภาษาอังกฤษกันแล้ว วันนี้เราเลยจะมาแนะนำนิยายภาษาอังกฤษน่าอ่านกัน เพื่อนๆ จะได้หาซื้อมาอ่านเวลาขึ้นรถเมล์ รถไฟฟ้า ระหว่างการไปทำงาน เพื่อช่วยพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของเพื่อนๆ

    1. The Wind in the Willows – Kenneth Grahame
    เรื่องนี้ถือว่าเป็นนิยายคลาสสิคที่เกิดขึ้นที่ชนบทของประเทศอังกฤษ เป็นนิยายที่เกี่ยวกับการผจญภัยของสัตว์ที่อาศัยอยู่ใกล้แม่น้ำ คนที่เขียนนิยายเรื่องนี้เขียนภาษาที่เราเข้าใจง่ายมาก ถึงแม้เราจะไม่เก่งภาษาอังกฤษก็สามารถเข้าใจและจินตนาการเรื่องราวได้ ทำให้สนุกสนานได้ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่

    2. Lord of the Flies – William Golding
    นิยายเรื่องนี้ถือว่าเป็น modern classic แล้วก็ฮิตมากในการใช้เป็นหนังสืออ่านนอกเวลาในโรงเรียนหลายๆ แห่งทั่วโลก
    เมื่อกลุ่มของเด็กชายถูกแยกจากกันบนเกาะแห่งทะเลทราย จะเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาบ้างต้องไปติดตามอ่่านในนิยายเรื่องนี้  คนเขียนนิยายเรื่องนี้ใช้อารมณ์ในการพรรณานิยายเล่มนี้ออก ทำให้นิยายเล่มนี้เหมือนจะเป็นบทกวีซะมากกว่า ดังนั้นเล่มนี้จึงเป็นนิยายอีกหนึ่งเล่มที่น่าจะหามาอ่านกัน

    3. The Old Man and the Sea – Ernest Hemingway
    Ernest Hemingway เป็นนักเขียนอีกหนึ่งคน ที่เรารู้ดีว่าการเขียนของเขานั้นเข้าใจง่าย
อ่านง่าย มีการเขียนที่ไม่ซับซ้อน ใช้ประโยคสั้นๆ ทำให้เหมาะสำหรับการอ่านเพื่อพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ สำหรับคนที่ฝึกพูดภาษาอังกฤษหรือฝึกอ่านภาษาอังกฤษอยู่ และก็ใช้ในการเรียนการสอนภาษาอังกฤษในหลายๆ โรงเรียนอีกด้วย
    นิยายเล่มนี้เป็นเรื่องราวของนักตกปลาชาว Cuban กับการต่อสู้เพื่อล่าปลาทะเลขนาดใหญ่ที่มีชื่อเรียกว่า “marline”

เรียนภาษาอังกฤษด้วยตนเอง

    4. Animal Farm – George Orwell
    เป็นนิยายเชิงเปรียบเทียบ เปรียบเปรย ที่พูดถึงเรื่องราวของเหล่าสัตว์ที่ต่อต้านกับเจ้าของฟาร์ม  เป็นการเหน็บแนมยุคของ Stalin ใน Soviet Union โดยคนเขียนใช้ประโยคที่ง่ายต่อการเข้าใจ

    5. Tuesdays with Morrie – Mitch Albom
    เมื่อครั้งที่ Mitch Albom ได้เจอกับ Morrie Schwartz ซึ่งเคยเป็นศาสตราจารย์ของเขาในมหาวิทยาลัย เขาได้เรียนรู้คุณค่าของบทเรียนชีวิต และได้ถ่ายทอดให้กับผู้อ่านได้อย่างสนุกสนานลงในนิยายเล่มนี้

    6. High Fidelity – Nick Hornby
    เล่มนี้เป็นหนังสือที่คนชอบในเสียงดนตรีห้ามพลาด!! เป็นเรื่องราวสมัยใหม่ที่ไม่ค่อยสนใจการพรรณาซักเท่าไหร่ เพราะคนเขียนเค้าเขียนจากมุมมองของตัวละครหลักที่ชื่อว่า Rob ซึ่งเป็นคนอกหักที่อาศัยอยู่ในทางตอนเหนือของลอนดอน
    หนังสือเล่มนี้มีบทสนทนาที่สนุกสนาน ระหว่างตัวละครต่างๆ ทำให้หนังสือเล่มนี้น่าอ่าน

    7. The Giver – Lois Lowry
    คนเขียนหนังสือเล่มนี้ ใช้ประโยคสั้นๆ และหลักไวยกรณ์ที่ง่ายๆ ในการเขียนเรื่องราวในหนังสือเล่มนี้ โดยเป็นเรื่องราวของเด็กชายชื่อ Jonas และชุมชนของเขา

    8. Fantastic Mr Fox – Roald Dahl
    Roald Dahl เป็นหนึ่งในนักเขียนเรื่องราวสำหรับเด็กที่เก่งมาก อีกทั้งยังมีชื่อเสียงในหมู่ผู้ใหญ่ด้วย สำหรับคนที่เริ่มต้นเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ เรียนภาษาอังกฤษ หรือฝึกพูดภาษาอังกฤษ การอ่านหนังสือภาษาอังกฤษสำหรับเด็กถือว่าเป็นวิธีที่ดีในการเริ่มต้นเลยหล่ะ ทั้งสนุกและได้เรียนรู้้ด้วย

    9. The Curious Incident of the Dog in the Night-Time – Mark Haddon
    เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการผจญภัยของเด็กหนุ่มที่มีความผิดปกติบางอย่าง เขามีชื่อว่า Christopher เมื่อค้นพบว่าตัวเองได้ฆ่าสุนัขของเพื่อนบ้าน เขาตัดสินใจที่จะค้นหาความจริงของเรื่องนี้ เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ลองหามาอ่านกันได้

    อย่า ลืมมาทดลองเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ ตัวต่อตัวกับชาวต่างชาติ ผ่านโปรแกรม Skype ง่ายๆ ได้ที่บ้านไม่ต้องเดินทางไปเรียนนอกบ้านให้เหนื่อย แถมสะดวกสบายเพราะสามารถเลือกครูสอนและเวลาเรียนเองได้ด้วย เลือกเรียนเวลาที่เราว่างได้สบายๆ แบบนี้มีที่นี่ที่เดียวค่ะ

    เพียงแค่สมัครสมาชิกก็สามารถทดลองเรียนฟรีได้เลยค่ะ ถ้าสมัครสมาชิกเสร็จแล้วก็สามารถ log in เข้าสู่ระบบ แล้วก็ทำการจองเวลาเรียนได้ที่เมนู "ตารางเรียน" เลยค่ะ

10 เว็บไซต์ เรียนฟรีแถมเก่งภาษาอังกฤษ!!

หลายๆคนลงทุนจ่ายเงินก้อนโตไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน หรือไปเรียนที่ต่างประเทศเพื่อพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ แต่จะดีกว่าไหมคะ ถ้าเราสามารถพัฒนาภาษาอังกฤษของเราทั้งฟัง พูด อ่าน เขียนได้ที่ประเทศไทยโดยไม่ต้องเสียเงินเป็นแสน เป็นล้าน! นอกจากได้เรียนฟัง พูด อ่าน เขียนแล้ว บางคนอาจจะยังได้เพื่อนดีๆจากต่างประเทศด้วยนะคะ มาดูกันดีกว่าว่ามีเว็บไซต์ดีๆอะไรบ้าง


1. TED.com เรื่องเล่าจากเหล่าคนดังระดับโลก

“ความรู้คู่แรงบันดาลใจ” เว็บไซต์ชื่อดังระดับโลกที่รวบรวมคลิปบรรยายของบุคคลที่มีชื่อเสียงก้องโลกไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น Bill Clinton อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ, Gordon Brown อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ, Sergey Brin และ Larry Page สองผู้ก่อตั้ง Google , Bill Gates อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารไมโครซอร์ฟ บุคคลที่รวยที่สุดในโลก และอาจารย์มหาวิทยาลัยชื่อดังเอาไว้มากมาย
         
ในส่วนเนื้อหาเราสามารถเลือกหัวเรื่องบรรยายที่สนใจได้ตามหมวดหมู่ เช่น การบรรยายมาใหม่
การบรรยายที่มีคนสนใจมากสุด หรือเรื่องที่กำลังได้รับความนิยมในสังคม และครอบคลุมไปถึงเรื่อง technology, design, business, science, และอื่นๆ อีกมากมาย
       
จุดเด่นของแต่ละคลิปนั้น คงช่วยแก้ปัญหาการฟังไม่ออกของผู้หัดฟังเริ่มแรกได้ดี เพราะแต่ละคลิปการบรรยายจะมีการใส่ซับไตเติลไว้ให้เลือก รวมถึงภาษาไทยก็มีเช่นกัน เหมาะสำหรับผู้ที่ยังฟังไม่คล่อง ตีความหมายไม่ถูก ก็สามารถเลือกซับไตเติลเพื่อเพิ่มความเข้าใจในเนื้อหาการบรรยายได้ เรียกได้ว่าไม่เพียงแต่ได้ทักษะการฟังเท่านั้น ยังได้แง่คิดดีๆ และปรัชญาการดำเนินชีวิต รวมถึงข้อคิดการใช้ชีวิตใหม่ๆ เพื่อนำมาปรับทัศนคติที่มีได้อีกด้วย      

เว็บเรียนภาษาอังกฤษ

2. เพิ่มทักษะการฟังด้วย elllo.org!!
       
elllo จะเน้นไปที่ทักษะการฟัง เราสามารถเลือกฟังสำเนียงการพูดจากผู้คนได้ทั่วโลกในหัวข้อที่แตกต่างกันออกไปเช่น กีฬา ท่องเที่ยว เกมส์ เป็นต้น โดยมีซับไตเติ้ลด้านล่าง อีกทั้งยังสามารถหาเพลงดีๆฟังหรือดูคลิปได้อีกด้วย
         
ข้อดี ของเว็บคือ มีคลิปเยอะมาก ข้อมูลเยอะมากให้เลือกฟัง แถมมีสคริปให้ด้วย เสียงมีคุณภาพบางส่วนมีการดาวโหลดได้ หรือมีคำถามให้ตอบด้วย


3. เน้นฝึกทักษะการเขียนที่ lang-8 lang-8.com
           
เว็บ community ที่เอาไว้ฝึก Writing ได้เป็นอย่างดี หลังจากที่เราได้ลงชื่อกับทางระบบแล้ว และเลือก native language ของเรา จากนั้นจึงไปเขียนparagraph ที่ write a new entry โดยอาจจะเป็น paragraph สั้นๆ หรือเป็นการบ้านจากโรงเรียนก็ได้ค่ะ หลังจาก publish แล้วก็จะมีเจ้าของภาษานั้นมาตรวจสอบการเขียนให้แก่เรา เช่นผิดคำไหน แก้ไขอย่างไรเป็นต้น
         
ซึ่งสามารถแก้ไขเป็นประโยคต่อประโยคและเสริมคอมเม้นท์ให้เหตุผลที่ต้องแก้ด้วย ในทางกลับกันเราก็สามารถไปช่วยแก้ไขให้กับคนอื่นได้เช่นกัน นอกจากจะได้พัฒนาทักษะการเขียนแล้วเราอาจจะได้เพื่อนเพิ่มจากเว็บนี้ด้วย โดยเว็บไซต์นี้มีเจ้าของภาษาใช้งานอยู่ถึง 190 ประเทศทั่วโลก
แถม เว็บตรวจสอบ spelling error, grammar suggestion และ style suggestion http://www.polishmywriting.com/


4. ฝึกภาษาผ่านทางจดหมาย! “Interpals.net"
           
Interpals.net เน้นไปที่การหาทางจดหมายเพื่อนชาวต่างชาติ ซึ่งจะส่งจดหมายกันเป็นทางอีเมล หรือจดหมายจริงๆที่เรียกว่า snail mailก็ได้ค่ะ ลักษณะการใช้งานคือเราจะต้องกรอกโปรไฟล์ แนะนำตัวคร่าวๆ และถ้าอยากมีเพื่อนทางจดหมายไปรษณีย์ก็เช็คที่ช่องrequest ว่า snail mail ค่ะ เพื่อให้เพื่อนที่ต้องการเขียนไปรษณีย์เหมือนกันติดต่อเรา หรือเราไปติดต่อเค้าก็ได้ค่ะ
           
อีกทั้งในเว็บไซต์ยังมีหัวข้อ “Language Exchange” ไว้เอาใจคนอยากแลกเปลี่ยนภาษาด้วย ซึ่งผู้ใช้งานสามารถค้นหา Partner ที่เป็นเจ้าของภาษาที่ตนสนใจ เพื่อที่จะได้ฝึกฝนและพัฒนาทักษะการเรียนรู้ของเรา ด้วยการคลิกเลือกช่องภาษาและระบุภาษาที่เราใช้สื่อสารอยู่ จากนั้นระบบจะทำการประมวลผลคู่หูที่ต้องการเรียนรู้ภาษาเราเช่นกัน และแสดงผลขึ้นมาให้ได้เลือกสนทนาด้วย ถือเป็นการเริ่มต้นเรียนรู้ภาษากันและกันที่น่าสนุกไม่น้อย


5. อัพเดทข่าว อัพเกรดสกิลคำศัพท์ต้อง BangkokPost.com
           
เว็บไซต์ฝึกภาษาอังกฤษของไทยเราบ้าง จากสำนักข่าวบางกอกโพสต์ BangkokPost.com ข้อดีของเว็บไซต์นี้คือ การได้เรียนรู้ภาษาอังกฤษผ่านข่าวสารต่างๆ ในบ้านเรา เป็นผลดีทำให้ผู้เรียนสามารถเข้าใจเนื้อหาของข่าวได้ดียิ่งขึ้น และสามารถเชื่อมโยงบริบทต่างๆ ของสังคมได้ด้วย
           
โดยในเว็บไซต์จะมีหมวดหมู่ให้เลือกตามความสนใจ เช่น หัวข้อ Easy News จะเป็นการนำข่าวมาเรียบเรียงโดยใช้คำศัพท์พื้นฐาน เหมาะสำหรับผู้เรียนระดับปานกลาง ส่วนหัวข้อ Really Easy News นั้นจะเป็นข่าวระดับง่าย ซึ่งในเนื้อหาจะมีการทำตัวหนาคำศัพท์ที่คาดว่าผู้อ่านจะไม่รู้ความหมายไว้ เมื่อนำเม้าส์ไปวางก็จะขึ้นความหมายของคำนั้นๆ พร้อมทั้งตอนท้ายของเว็บไซต์จะมีการสรุปความหมายของศัพท์ในเนื้อเรื่องที่น่าสนใจ พร้อมคำแปลเป็นภาษาไทยให้ด้วย


6.เรียนภาษาสำเนียงอังกฤษ กับสำนักข่าวชื่อดัง BBC.co.uk
             
เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้ว ว่า BBC เป็นอีกช่องทางหนึ่งสำหรับการฝึกภาษาอังกฤษ ที่ได้ทั้งไวยากรณ์ คำศัพท์ การออกเสียง เป็นต้น โดยเฉพาะคนที่ต้องการฝึกสำเนียงอังกฤษหรือBritish และเรายังสามารถทำแบบทดสอบได้อีกด้วย สิ่งที่น่าสนใจ คือ ไฟล์เสียงภาษาอังกฤษสั้นๆที่เรียกว่า 6 Minutes English ที่สามารถดาวน์โหลดมาในรูปแบบMP3 เพื่อฝึกฟังได้ง่ายๆอีกด้วย


7. Omegle เว็บแชทเพื่อฝึกสนทนาภาษาอังกฤษ
             
อีกหนึ่งเว็บแชทเพื่อฝึกภาษาอังกฤษอีกเว็บไซต์อย่าง Omegle.com  ต่างกับเว็บไซต์อื่นๆตรงที่ Omegle ใช้สำหรับฝึกภาษาอังกฤษอย่างเดียวเท่านั้น กล่าวคือมีเพื่อนจากหลากหลายประเทศมารวมตัวกันที่นี่เพื่อพูดคุยและเรียนรู้ภาษาอังกฤษ การแชทนี้จะทำได้ทั้งแบบพิมพ์แชทปกติ(ข้อความ) หรือเป็นวิดิโอก็ได้ จะมีการสุ่มคนที่ต้องการแชทเพื่อให้ได้คนที่มีลักษณะความชอบหรือความสนใจในเรื่องเหมือนๆกัน


8. คลังข้อสอบ examenglish.com
             
ตามชื่อเลย Exam English เป็นเว็บไซต์ที่ให้เราได้ทำข้อสอบต่างๆ ทั้ง TOEFL, CPE, KET รวมทั้งข้อสอบนานาชาติอย่าง ESL/EFL อีกด้วย เราจะสามารถทำข้อสอบและทดสอบระดับภาษาอังกฤษได้จากบททดสอบต่างๆ ทั้งบททดสอบทักษะด้านการอ่าน การฟัง ทดสอบแกรมม่า คำศัพท์ และการเขียนค่ะ


9. EngVid.com ห้องเรียนเสมือนจริง สอนฟรีไม่มีกั๊ก!
             
สำหรับเว็บไซต์เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ EngVid.com คุณสมบัติพิเศษของเว็บนี้อยู่ตรงที่ผู้เรียนสามารถเลือกระดับความสามารถในการเรียนรู้ของตนเองได้ เช่น สำหรับผู้เริ่มต้น Beginner, ระดับปานกลาง Intermediate และระดับสูง Advance จึงไม่ต้องกังวลว่าจะเรียนเรื่องที่ยากเกินไป
             
EngVid.com ยังแยกเป็นหมวดหมู่ให้ง่ายต่อการเรียนรู้ เช่น หมวดภาษาอังกฤษเชิงธุรกิจ หมวดการพูด การอ่าน การเขียน หมวดวัฒนธรรมภาษา หมวดไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ หมวดคำสแลง และยังรวมไปถึงเทคนิคการทำข้อสอบวัดระดับอย่าง Toefl และ Toeic ด้วย โดยแต่ละคลิปจะมีอาจารย์ผู้สอนมาให้ความรู้และเทคนิคการใช้ภาษา ผ่านกระดานไวท์บอร์ด จึงทำให้ผู้เรียนออนไลน์มีความรู้สึกราวกับเรียนอยู่ในคลาสภาษาอังกฤษยังไงยังงั้น
             
หลังจากเรียนผ่านวีดีโอแล้ว ยังสามารถทำแบบฝึกหัดหลังเรียนได้อีกด้วย ทางเว็บไซต์จะมี
Quiz เล็กๆ ให้ทำเพื่อเพิ่มความเข้าใจต่อหัวเรื่องที่เรียนนั้นๆ โดยมีการเฉลยข้อที่ถูกต้องและให้คะแนนสำหรับการทำแบบทดสอบ และหากใครที่มีข้อสงสัยหรือไม่เข้าใจเนื้อหาที่เรียนแล้วล่ะก็ ทางเว็บไซต์ก็ยังเปิดโอกาสให้ผู้เรียนส่งข้อสงสัยผ่านทางอีเมล์เว็บอีกด้วยนะ


10. เรียนภาษากับแอป busuu.com
               
เป็นอีกเว็บไซต์หนึ่งที่สามารถเข้าไปเรียนภาษาอะไรก็ได้ โดย busuu การันตีตัวเองว่าเป็นนวัตกรรมชุมชน ออนไลน์สำหรับการเรียนภาษา ซึ่งก่อตั้งเพราะความผิดหวัง ในระบบการเรียนการสอนภาษาต่างประเทศในปัจจุบัน ที่ทั้งแพง ยาก และน่าเบื่อ
             
Busuu จะมีแบบทดสอบเตรียมไว้ให้ ไม่ว่าจะเป็นแบบทดสอบด้านการเขียน การฝึกฝนคำศัพท์ การอ่านทำความเข้าใจ เป็นต้น นอกจากการทำแบบทดสอบแล้ว เรายังสามารถเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ได้โดยการเข้าร่วมกลุ่มและแชทกับสมาชิกคนอื่นๆ


การเรียนผ่านเว็บไซต์เหล่านี้เป็นเป็นหนึ่งในวิธีการเรียนรู้ด้วยตัวเอง และต้องใช้ความพยายามมาก ทั้งความตั้งใจ สำคัญที่สุดคือมีความอดทน ฝึกฝน Keep clam practice makes perfect <3

คุณพอมีเวลาไหม Do you have some time?

อยากถามชาวต่างชาติว่า “คุณพอมีเวลาไหม?” จะถามยังไง


Do you have some time? คุณพอมีเวลาสักครู่ไหมคะ

Do you have a time? คุณพอมีเวลาสักนิดไหมคะ (รู้นะว่าไม่ค่อยว่าง แต่อยากคุยสักแพร๊บอ่ะฮร่ะ)

แต่ถ้ามีคนถามเธอว่า… Do you have the time?

เรียนภาษาอังกฤษ

อย่าได้ตอบเลยนะว่า “ฉันมีเวลาให้เธอจ้ะ มีไรว่ามา Yes, go ahead.” เพราะคำถามนี้หมายถึง “ตอนนี้กี่โมงแล้วคร้าาา”

เวลาตอบก็บอกเวลาไปเลยเช่น “It’s 9.30 am. อ๋อ ตอนนี้ 9 โมงครึ่งแล้วค่ะ”

แล้วถ้าเธอเจอประโยคนี้ล่ะ Do you have sometimes?

จะตอบได้ยังไงเนอะในเมื่อ sometimes แปลว่าบางที เจอแบบนี้แปลออกมาไม่ได้จีจีนะ

ฉะนั้นต้องใช้ some time แบบมีช่องว่างนะจ๊ะ

เรียนภาษาอังกฤษอย่างง่าย

แถมให้นิดนึง เวลาได้ยินใครพูดว่า “We had a time!” ไม่ได้แปลว่าเรามีเวลานะ

แต่แปลว่า “เราสนุกกันมั่กขร่ะ We had a lot of fun.”

รักเสมอ แม้เธอไม่สน

กิ๊กกั๊ก

แปลว่าอะไรกันนะ?

สำนวน (Idioms) หลายคำทำเรางงได้ไม่น้อย มีสำนวนนึงพางงชนิดที่ว่า หลงป่าหลงทะเลกันไปเลย สำนวนนั้นคือ “at sea”


สำนวน หรือ idiom “at sea” แปลให้ตรงตัวก็คือ “(ล่องเรือ) ในทะเล”

แต่ความหมายที่หลายคนไม่รู้อีกความหมายนึงคือ “สับสนงุนงง”

เรียนภาษาอังกฤษ

ใช่เลย!  “at sea” คำนี้หละที่แปลว่า “งง” คิดง่ายๆ ว่าถ้าเราลอยเท้งเต้งอยู่กลางทะเล เราจะรู้สึกสับสนงุนงงแค่ไหน

มาดูตัวอย่างกัน…

ความหมายที่ 1. (Sailing) on the sea:

I spent my whole week-off at sea. It was fantastic!

He is at sea! You can’t meet him until the end of this month.

ความหมายที่ 2.  (also all at sea) confused or unable to decide what to do:

Kikkuk was at sea over the maths problems.

เรียนอังกฤษออนไลน์

Reading jurisprudence theory leaves me feeling at sea.
เห็นมั้ยคะว่าคำง่ายๆ บางทีอาจมีหลายความหมายชนิดที่ทำให้เรา “งง” เป็นไก่ตาแตกเลยทีเดียว
เรื่องไหนเข้าใจยากก็ปล่อยไป ขอให้เข้าใจว่าเรารักเธอก็พอ
กิ๊กกั๊ก

English Magic พูดอังกฤษได้แน่ๆ แค่ 3 เดือน

หนังสือ English Magic พูดอังกฤษได้แน่ๆ แค่ 3 เดือน (English Magic) เรียนการพูดอย่างตรงจุด ไม่สะดุดเหมือนการฝึกแบบเดิมๆ เรียนรู้เร็ว พูดอังกฤษเก่งได้ภายใน 90 วัน ด้วยหลักการง่ายๆ 3ขั้น ฟัง จำ พูด คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าทักษะทางภาษาที่เราใช้บ่อยที่สุด คือการพูดและการฟัง แต่จะเรากลับไม่ค่อยมีโอกาสได้เรียนและได้ฝึกทั้งสองทักษะนี้มากนัก แล้วเราจะฝึกอย่างไรให้ถูกทาง มีเทคนิคอะไรไหมที่จะทำให้เราพูดภาษาอังกฤษได้คล่อง ค้นพบคำตอบได้ในเล่มนี้

เรียนภาษาอังกฤษ



คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าทักษะทางภาษาที่เราใช้บ่อยที่สุด คือการพูดและการฟัง แต่จะเรากลับไม่ค่อยมีโอกาสได้เรียนและได้ฝึกทั้งสองทักษะนี้มากนัก แล้วเราจะฝึกอย่างไรให้ถูกทาง มีเทคนิคอะไรไหมที่จะทำให้เราพูดภาษาอังกฤษได้คล่อง ค้นพบคำตอบได้ในเล่มนี้

เกี่ยวกับผู้เขียน

เกี่ยวกับผู้เขียน  ผู้เขียนมีประสบการณ์ในการสอนมากมายในประเทศจีนตั้งแต่ปี ค.ศ. 2004 ถึง 2010 โดยสอนทั้งในระดับมัธยม ในระดับมหาวิทยาลัย และในสถาบันฝึกอบรมอาชีพ รวมทั้งสอนในสถานที่ทำงานอีกด้วย ในระหว่างการสอนที่มหาวิทยาลัย เขาได้วิจัยเพื่อหาคำตอบให้กับคำถามที่ว่า “ทำไมผู้เรียนภาษาจำนวนมากจึงไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว”

เรียนภาษาอังกฤษภายใน 3 เดือน

สารบัญ

บทที่ 1 กฎในการเรียน
 บทที่ 2 การออกเสียงโดยใช้เทคนิค A-Z
บทที่ 3 “กุญแจ” หลักดอกที่ 1 คือการฟัง
บทที่ 4 ทฤษฎี “การมองภาพใหญ่”
บทที่ 5 ประโยคคืออะไร?
บทที่ 6 ทำความเข้าใจกับบทสนทนาทั่วไป
บทที่ 7 กุญแจสำคัญหลักดอกที่ 2 คือ การจำ
บทที่ 8 กุญแจหลักดอกที่ 3 คือ “การพูด”
บทที่ 9 การสื่อสารทางธุรกิจ